วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปราสาทภูมิโปน จ.สุรินทร์



            
ความเป็นมาของปราสาทภูมิโปน
                 ปราสาทภูมิโปนประกอบด้วยปราสาทอิฐ 3 หลัง  และฐานปราสาทศิลาแลงอีก1 หลัง  ตั้งเรียงกันจากเหนือไปใต้ ปราสาทอิฐองค์ที่ 3 ซึ่งเป็นปรางค์ประธาน เป็นปราสาทหลังใหญ่  ก่อด้วยอิฐไม่สอปูน มีเสาประดับกรอบประตูและทับหลังทำด้วยหินทราย  ใต้หน้าบันเหนือทับหลังขึ้นไปมีลายรูปใบไม้ม้วน  รูปแบบและเทคนิคการก่อสร้างปราสาทประธานเทียบได้กับปราสาทขอมสมัยก่อนพระนคร ร่วมสมัยกับปราสาทหลังที่ และเมื่อกรมศิลปากรดำเนินการขุดแต่ง ได้พบจารึกภาษาสันสกฤต  อักษรปัลลวะ ซึ่งเคยใช้ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13  ซึ่งถือเป็นจารึกรุ่นแรกๆ เก่าแก่ที่สุดคือ จารึกเขาน้อย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว  พุทธศักราช 1180 และจารึกเขาวัง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว



           
              ปัจจุบันที่เหลืออยู่ของปราสาทมีเพียงส่วนเดียวที่ใหญ่ที่สุด รายละเอียดบนปราสาทแห่งนี้เหลืออยู่ไม่มากนัก คำว่า ภูมิ มาจาก ภาษาเขมร แปลว่าหมู่บ้าน หรือดินแดน คำว่า โปน แปลว่าซ่อนตัวไม่ให้ใครหาพบ จึงหมายถึงนครลับ หรือที่แอบรวบรวมกำลังกองทัพ ชื่อเดิมของปราสาทภูมิโปน ในปี พ.ศ. 2443 คือ บันเตีย ซึ่งหมายถึง เมืองที่มีกำลังทหารป้องกัน
 ตำนานเนียงเด๊าะทม
              ตำนานเนียงเด๊าะทม หรือ เนียง ด็อฮ ทม มีว่า ที่สระลำเจียก ห่างจากตัวปราสาทไปทางทิศตะวันออกประมาณ 200 เมตร มีกลุ่มต้นลำเจียกขึ้นเป็นพุ่มๆ ต้นลำเจียกที่สระน้ำแห่งนี้ไม่เคยมีดอกเลย ในขณะที่ต้นอื่นๆนอกสระต่างก็มีดอกปกติ    ความผิดปกติของต้นลำเจียกที่สระลำเจียกหน้าปราสาท เป็นที่มาของตำนานปราสาทภูมิโปนการสร้างเมืองและการลี้ภัยของราชธิดาขอม






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น